หนุ่มจีนหัวใสซื้อตั๋ว VIP กินอาหารในสนามบินนานฟรีนับปี

            ประเทศที่กว้างใหญ่และจำนวนประชากรที่มากมายมหาศาลย่อมมีเรื่องแปลกๆให้เห็นกันเป็นประจำ ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศมีการเผยแพร่เรื่องราวของชายชาวจีนคนหนึ่งที่เปลี่ยนเลานจ์วีไอพีในสนามบินให้เป็นห้องอาหารของตัวเองเป็นเวลานานนับปีแล้ว


หนุ่มจีนหัวใสซื้อตั๋ว VIP กินอาหารในสนามบินนานฟรีนับปี

            เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนามบินในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ชายหนุ่มสมองใสรายนี้ลงทุนซื้อตั๋วชั้นเฟิร์สต์คลาสของสายการบินสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการเข้าไปนั่งทานอาหารและเครื่องดื่มภายในเลานจ์วีไอพีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม


หนุ่มจีนหัวใสซื้อตั๋ว VIP กินอาหารในสนามบินนานฟรีนับปี

            ความหัวใสของหนุ่มจีนรายนี้คือการขอเลื่อนเที่ยวบินหลังจากเข้าไปทานอาหารจนอิ่มหนำโดยทำอย่างนี้ไปแล้วกว่า 300 ครั้ง แม้เจ้าหน้าที่สายการบินจะรู้เรื่องนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นสิทธิพิเศษของลูกค้า ทว่าเรื่องไม่ได้จบเพียงเท่านั้นเพราะหนุ่มจีนรายนี้ได้นำตั๋วมาคืนเพื่อยกเลิกเที่ยวบินหลังจากตั๋วใกล้หมดอายุซึ่งสายการบินจะต้องจ่ายเงินคืนให้จำนวนหนึ่งด้วย
            ไม่รู้ว่าหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ไปแล้วจะมีการเลียนแบบหนุ่มจีนรายนี้ขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาจจะมีอยู่ก่อนแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องชื่นชมมันสมอง (แม้จะไม่ซื่อสัตย์) ที่ลงทุนเพียงครั้งเดียวก็ได้กินอาหารในสถานที่แพงๆแถมสุดท้ายยังได้เงินลงทุนบางส่วนคืนอีก

หนุ่มญี่ปุ่นขโมยรองเท้าส้นสูงจำนวน 450 คู่

            งานนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองรวมถึงนักข่าวต้องตะลึงเมื่อไปค้นพบโกดังรองเท้าส้นสูงในห้องพักแห่งหนึ่งของหนุ่มตกงาน โดยการตรวจค้นทำให้พบรองเท้าส้นสูงจำนวนถึง 450 คู่ ทั้งรองเท้าที่มีสภาพเก่าและใหม่ปะปนกันไปเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ


หนุ่มญี่ปุ่นขโมยรองเท้าส้นสูงจำนวน 450 คู่

            เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโตเกียวแถลงข่าวการจับกุมหัวขโมยรองเท้าส้นสูงที่ก่อคดีมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เขามีชื่อว่าซาโตะ (Sato) อายุ 28 ปี เขายอมรับสารภาพว่าตนเองมีความสุขเมื่อได้ขโมยรองเท้าส้นสูงและทำมาอย่างต่อเนื่องจนมีจำนวนมากดังที่กล่าวไปแล้ว



            นายซาโตะสารภาพว่าเขาจะเข้าไปในห้องแต่งตัวตามสถานบันเทิงโดยเฉพาะในย่านกินซ่าซึ่งหนาแน่นไปด้วยนักท่องราตรี ซาโตะจะเลือกเป้าหมายจากสถานบันเทิงที่มีพนักงานสาวสวยและจะเข้าไปขโมยรองเท้าทีอยู่ในล็อกเกอร์ห้องแต่งตัวอันเป็นเสมือนชุมทรัพย์ของเขา

คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือประหารอาเขยล้างตระกูล

            ก้าวขึ้นสู่บังลังก์อำนาจอย่างเต็มตัวพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่ของประเทศด้วยการประหารนายชาง ซองแต็ก (Jang Song-thaek) ที่มีศักดิ์เป็นอาเขยเมื่อปลายปี 2013 ในข้อหาพยายามโค่นล้มอำนาจระบอบคอมมิวนิสต์ผ่านการก่อรัฐประหารที่หนุนหลังโดยทหาร


ผู้นำเกาหลีเหนือประหารอาเขยล้างตระกูล

            กรณีการประหารอาเขยในครั้งนี้ถือเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเพราะนายชาง ซองแต็กมีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดา โดยหลังจากนายชางถูกประหาร คิม จองอึนได้ประกาศกร้าวว่าการกระทำครั้งนี้ช่วยให้ชาติเกาหลีเหนือมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นมากขึ้น


ผู้นำเกาหลีเหนือประหารอาเขยล้างตระกูล

            29 มกราคม 2014 สำนักข่าวเกาหลีใต้ได้รายงานข่าวที่น่าตกใจเกี่ยวกับเกาหลีเหนืออีกครั้งโดยมีเนื้อหาว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งประหารญาติร่วมสายเลือดของนายชางจนหมดสิ้นไล่ไปตั้งแต่พี่น้อง ลูก หลาน ตามหลักความผิดร่วมวงศ์วานเพื่อถอนรากถอนโคน ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายชางจากการแต่งง่านจะได้รับการยกเว้นแต่จะถูกส่งตัวไปอยู่ในสถานที่อันห่างไกลแทน

บราพิสูจน์รักแท้ (True Love Tester) นวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น

            เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สำหรับคุณสุภาพสตรี Ravijour บริษัทผู้ผลิตชุดชั้นในชื่อดังของญี่ปุ่นจึงได้นำเสนอบราอัจฉริยะซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ True Love Tester ออกมาเรียกเสียงฮือฮาในวาระฉลองครบ 10 ปีของบริษัท


True Love Tester บราอัจฉริยะ

            บราอัจฉริยะนี้จะคอยตรวจจับสารและปฏิกิริยาในร่างกายของผู้สวมใส่ หากผู้สวมไม่ต้องการถอดมันก็จะล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับและประเมินผลแล้วว่าผู้สวมมีความรักหรือเต็มใจที่จะถอดออกมันก็จะส่งสัญญาณเพื่อปลดล็อกตะขอบราออก


True Love Tester

            True Love Tester ออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหาการถูกลวนลามและเสริมสร้างอารมณ์โรแมนติกสำหรับคู่รัก โดยบราจะทำงานเชื่อมเข้ากับแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ แต่หากผู้สวมต้องการถอดบราออกเองก็เพียงแค่ปรับอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะผ่อนคลายก็สามารถปลดออกได้อย่างง่ายดาย



            อย่างไรก็ดี True Love Tester ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือผู้นำในนวัตกรรมและใส่ใจในสวัสดิภาพของสุภาพสตรีเท่านั้น ไม่ได้ผลิตมาเพื่อจำหน่ายตามท้องตลาดแต่อย่างใด

ยอดขายสมาร์ทโฟน 2013 พุ่งทะลุหลัก 1,000 ล้านเครื่อง

            กลายเป็นปัจจัยที่ 4.5 ในการดำรงชีวิตไปแล้วสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ในทุกวันนี้มีใช้กันเกือบทุกบ้านโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะที่เรียกกันว่า “สมาร์ทโฟน” (Smartphone) ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องสัมพัธ์กับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นตลอดเวลา


ยอดขายสมาร์ทโฟน 2013

            ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าโทรศัพท์มือถือในยุคเริ่มแรกชนิดก้อนกรวดกับภูเขาทำให้หลายคนไม่ลังเลที่จะทิ้งโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าแล้วหันมาจับสมาร์ทโฟนแทน แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่ปีที่สมาร์ทโฟนเครื่องแรกปรากฏโฉมสู่สายตาชาวโลก ความนิยมอย่างล้นหลามทำให้ในปี 2013 ที่ผ่านมายอดขายสมาร์ทโฟนก็พุ่งทะลุหลัก 1,000 ล้านเครื่อง


ยอดขายสมาร์ทโฟน 2013

            ผลสำรวจโดยสถาบันวิจัยและวิเคราะห์ตลาดไอดีซีชี้ว่าในปี 2013 ที่ผ่านมายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนจากทุกแห่งทั่วโลกนั้นอยู่ที่ราว 1,004 ล้านเครื่องจากจำนวนโทรศัพท์มือถือทุกระบบ 1,800 ล้านเครื่อง ส่วนแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งอันดับ 1-5 ได้แก่ ซัมซุง (เกาหลีใต้) แอปเปิ้ล (อเมริกา) หัวเว่ย (จีน) แอลจี (เกาหลีใต้) และเลอโนโว (จีน)

จระเข้น้ำเค็มลากเด็กชายวัย 12 ลงหายไปใต้น้ำ

            สำนักข่างต่างประเทศรายงานจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2014 ว่าเกิดเหตุการณ์จระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่โผล่ขึ้นจากบึงแล้วกัดเข้าไปที่ร่างของเด็กชายวัย 12 ก่อนที่จะลากร่างของเหยื่อลงสู่ก้นบึงและหายไปอย่างไร้ร่องรอย


จระเข้ออสเตรเลียฆ่าเด็ก

            สถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบึงน้ำอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคาคาดูทางตะวันออกของเมืองดาร์วิน คาดว่าเหยื่ออาจกำลังเล่นกันโดยไม่ทันสังเกตุเห็นจระเข้ที่ขึ้นมาบนฝั่ง ส่วนเพื่อนของเหยื่อซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเจ้าจระเข้กัดเข้าที่แขนเช่นกัน



            หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ระดมกำลังกันค้นหาจระเข้และเหยื่อโดยได้รับคำสั่งให้ยิงจระเข้ที่มีความยาวตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไปได้ทันที แต่ถึงแม้จะค้นหากันทั้งวันทั้งคืนก็ยังไม่พบเป้าหมาย ในการค้นหาเจ้าหน้าที่ได้สังหารจระเข้ซึ่งมีขนาดยาวกว่า 4 เมตรไป 2 ตัวและทำการผ่าท้องแต่ก็ไม่พบกับชิ้นส่วนของมนุษย์
            การค้นหายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนวันที่ 28 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าพบซากมนุษย์ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นร่างของเจ้าหนูวัย 12 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอผลการพิสูจน์ DNA เพื่อยืนยันเอกลักษณ์ต่อไป ส่วนการค้นหาของเจ้าหน้าที่นั้นก็ได้ยุติลงแล้ว

สิงคโปร์ ค่าครองชีพแพงหูฉี่กับความกังวลของคนรุ่นใหม่

            แม้สิงคโปร์จะเป็นประเทศเล็กๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากรไม่มากนักแต่เม็ดเงินที่สะพัดในแต่ละวันนั้นเรียกได้ว่ามหาศาล โดยเฉพาะค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆทุกปีจนติดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกทำเอาคนที่อาศัยอยู่ต้องกระตือรือร้นหาเงินตลอดเวลาเลยทีเดียว


ค่าครองชีพในสิงคโปร์

            ถ้าไม่ใช่พวกมีเงินถุงเงินถังหรือประสบความสำเร็จอย่างมากในธุรกิจจนร่ำรวยก็คงอยู่ในสิงคโปรอย่างสบายๆไม่ได้ เห็นได้จากผลสำรวจเรื่องค่าครองชีพที่ถูกเปิดเผยออกมาที่แสดงให้เห็นว่าค่าครองชีพในปัจจุบันมีผลกระทบอย่างมากต่อคนรุ่นใหม่
            ผลสำรวจชี้ไปในทางเดียวกันว่านอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัวและความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน สิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญที่สุดก็คือ “เงิน เงิน เงิน” สัญลักษณ์ที่หมายถึงหลักประกันความมั่นคงและเป็นที่ปรารถนาที่สุดในชีวิต


เที่ยวสิงคโปร์

            การมีเงินสามารถสร้างมาตรฐานที่ดีในชีวิตได้ในสิงคโปร์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยซึ่งมีราคาพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันห้องขนาด 1,000 ตารางฟุตมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1-1.2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หากมีรถใช้ส่วนตัวก็ต้องเสียเงินซื้อใบอนุญาตสำหรับขับรถ 10 ปีในราคา 72,396 เหรียญสิงคโปร์
            ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่คนรุ่นใหม่สิงคโปร์ต้องหนักใจ หลายคนต้องอดใช้จ่ายเงินเล็กน้อยๆเพื่อใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ แต่กระนั้นก็ต้องชื่นชมสิงคโปร์อย่างหนึ่งว่าแม้ค่าครองชีพจะแพงหูฉี่แต่ทางการก็ให้การดูแลที่ดีในด้านอื่นๆโดยเฉพาะเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสกับข้อหาคบชู้

            ยังคงอยู่ในกระแสสำหรับเรื่องฉาวคาวโลกีย์ของ “ฟรองซัวส์ โอลลองด์” (Francois Hollande) ผู้นำฝรั่งเศสคนปัจจุบันที่ในวันนี้เขาเป็นจำเลยของสังคมในข้อหาคบชู้ทั้งๆที่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว โดยผลสำรวจในประเทศเห็นพ้องกันว่าข่าวนี้ได้ทำลายภาพลักษณ์ในฐานะชาติที่ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมคาทอลิกจนหมดสิ้น


ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเสสที่ตกเป็นข่าวคบชู้

            ย้อนความกันสักนิดถึงที่มาของเรื่องราวความวุ่นวายในครั้งนี้ จุดเริ่มต้นมันมาจากการที่มีสื่อจอมแฉแดนน้ำหอมแอบไปจับภาพของท่านผู้นำที่แอบย่องไปหา “ชูลี กาเยต์” (Julie Gayet) นักแสดงสาวใหญ่วัย 41 ปี โดยมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวพร้อมกับแฉความสัมพันธ์ลึกซึ้งของทั้งคู่ที่มีมาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว


ชูลี กาเยต์นักแสดงที่ตกเป็นข่าว

            หลังจากข่าวนี้ถูกกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วทำให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องเดือดร้อนกันยกใหญ่โดยเฉพาะ “วาเลรี ตริเยร์เวเลร์” (Valerie Trierweiler) สุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่เครียดมากจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนทางฝั่งกาเยต์เองก็ได้ให้ทนายยื่นฟ้องสื่อดังเป็นจำนวนเงิน 50,000 ยูโร ในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัว


ภาพควงคู่ของวาเลรี ตริเยร์เวเลร์กับอดีตสามี

            แม้กระแสข่าวจะส่างซาลงไปสักพักแต่ในอีกไม่กี่วันต่อมาเรื่องนี้ก็กลับดังกระฉ่อนอีกครั้งเมื่อท่านผู้นำประกาศแยกทางกับนางตริเยร์เวเลร์ที่ครองคู่กันมาตั้งแต่ปี 2007 อย่างหมดสิ้นเยื่อใยโดยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่างเอเอฟพี การประกาศครั้งนี้ทำให้นางตริเยร์เวเลร์หมดสถานะสุภาพสตรีหมายเลข 1 ไปโดยปริยายแม้จะไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันก็ตาม
            ฝั่งตริเยร์เวเลร์ก็ออกมาเปิดใจกับสื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับตกจากตึกสูง ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเชื่อว่าอดีตสามีจะมีพฤติกรรมนอกใจจนกระทั่งปรากฏภาพหลักฐานดังกล่าวในนิตยสาร แม้นี่จะไม่ใช่ความผิดหวังครั้งแรกแต่มันก็ทำให้เธอสะเทือนใจเพราะสื่อให้ความสนใจมาก

มหาเศรษฐีฮ่องกงทุ่มไม่อั้นตามหาหนุ่มพิชิตใจลูกสาวผู้รักเพศเดียวกัน

            กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อคุณพ่อผู้แสนดีชาวฮ่องกงที่ต้องการเห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาจึงทุ่มเงินก้อนโตจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงให้เป็นรางวัลสำหรับหนุ่มที่สามารถพิชิตใจลูกสาวของตนได้ซึ่งเป็นคนรักเพศเดียวกัน


เซซิล เชา มหาเศรษฐีฮ่องกงทุ่มไม่อั้นตามหาหนุ่มพิชิตใจลูกสาวผู้รักเพศเดียวกัน

            แม้จะสร้างเสียงฮือฮาขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเพราะฝั่งลูกสาวนั้นยังคงนิยมรักเพศเดียวกันซึ่งเป็นสิทธิ์ของเธอ ในทางกลับกันก็เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่ออย่าง “เซซิล เชา” (Cecil Chao) ถึงขนาดทุ่มเงินก้อนโตให้ เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าอันที่จริงแล้วเขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งในเรื่องส่วนตัวของลูกสาวแต่เขาอยากเห็นเธอแต่งงานและมีลูก


จีจี้กับคนรักของเธอ

            ยอดคุณพ่อเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้ไม่ยอมแพ้ทุ่มเงินเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 1,000 ล้านดอลลร์ฮ่องกงแต่เชื่อว่าก็คงจะไม่สำเร็จตามเคยเพราะตอนนี้ “จีจี้” (Gigi) ลูกสาวสุดที่รักของเขาแต่งงานอยู่กินกับคู่รักเพศเดียวกันที่ฝรั่งเศสไปแล้วเมื่อปี 2012


จีจี้ผู้ศรัทธาในความรัก

            ฝั่งจีจี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่าเธอไม่คิดมาก่อนว่าพ่อจะทุ่มเงินก้อนโตเพื่อทำให้เธอเปลี่ยนใจเพราะมันไม่อาจเปลี่ยนใจเธอได้ เธอไม่คิดจะเปลี่ยนใจมารักผู้ชายแต่เธอจะยินดีมากและยอมเป็นเพื่อนที่ดีกับผู้ชายทุกคนที่บริจาคเงินให้กับองค์การกุศลของเธอที่ชื่อว่า Faith in Love หรือ ศรัทธาในรัก
            หนังสือพิมพ์ฮ่องกงรายงานเมื่อ 29 มกราคม 2014 ว่าจีจี้ได้ขอความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อผ่านทางจดหมายให้ยอมรับในการตัดสินใจของเธอ แม้มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เป็นพ่อที่จะทำใจได้แต่ก็อยากให้เข้าใจและปฏิบัติต่อแฟนสาวของเธอเหมือนกับเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง
            ดูเหมือนว่าเรื่องราวระหว่างสองพ่อลูกมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งเมื่อผู้เป็นพ่อประกาศยกเลิกเงินรางวัลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากได้รับจดหมายขอความเห็นใจจากฝั่งลูกสาว แต่กระนั้นผู้เป็นพ่อก็ยังไม่ยอมรับคู่รักของลูกสาวเป็นสมาชิกในครอบครัว

เกาหลีเหนือส่งจดหมายยุติความขัดแย้งและจัดวันรวมญาติ

            ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ในปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีว่าทั้งสองนั้นไม่ค่อยลงรอยกันจนเรียกได้ว่าระหองระแหงกันอยู่เสมอ บางครั้งก็หนักหนาถึงขั้นเกือบจะเปิดศึกกันจนทำให้เชื่อได้ว่าพี่น้องร่วมสายเลือดนี้คงไม่มีทางหันมาคืนดีกันได้อีก


เกาหลีเหนือส่งจดหมายยุติความขัดแย้ง

            วันที่ 24 มกราคม 2014 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวที่ทำให้ทั่วโลกต่างประหลาดใจอย่างมากเมื่อมีรายงานว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้ผู้นำหน้าใหม่ส่งจดหมายไปยังเกาหลีใต้เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการกระทำของทหารที่ไม่เป็นมิตร


คิม จองอึน ผู้นำคนปัจจุบันเกาหลีเหนือ

            การกระทำดังกล่าวเสมือนเป็นสัญญาณไปยังเกาหลีใต้ว่าจะขอยุติการเป็นปฏิปักทางด้านทหารซึ่งอาจนำไปสู่การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือก็ได้แสดงเจตจำนงในการยื่นข้อเสนอจัดวันรวมญาติเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ซึ่งเกาหลีใต้ก็รับทันทีโดยในเวลาต่อมาทั้งสองก็สามารถตกลงวันรวมญาติกันได้โดยจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-25 กุมภาพันธ์นี้ ที่สถานตากอากาศหุบเขากุมกังในเกาหลีเหนือ